วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2554

BMW X3 xDrive2od


X3 Gen. II  ดูเผินๆอาจไม่มีอะไรตื่นเต้นไปกว่ารถอเนกประสงค์ขับเคลื่อน 4 ล้อโซนอาเซี่ยนที่ขโมยซีน BMW X3 ไปได้ด้วยหน้าตาและรูปลักษณ์ที่หวือหวา..จนกว่าจะได้เข้าใกล้ถึงจะรู้ว่าภายใต้โครงสร้างตัวถังแบบ Compact SUV ใหม่ล่าสุดรหัส F25 ที่ BMW สร้างขึ้นแทน X3 เดิมรหัส E83 นั้นมีเทคโนโลยีซุกซ่อนอยู่มากมายที่เพียงพอให้ X3 ขึ้นแท่นสุดยอด Compact SUV อีกครั้งได้ไม่ยาก
The X Gen.
BMW X3 เริ่มต้นโปรเจ็คการสร้างยานยนต์อเนกประสงค์ไซด์ Compact สไตล์หรูในรหัสตัวถัง E83 ที่ทางผู้ผลิต BMW AG. วางให้เป็นคู่แข่งในสายเดียวกับ  Audi Q5, MB. GLK และ Land Rover LR2 ซึ่งถือเป็นรถ SUV ตลาดบนที่ค่าตัวสูงและแข่งขันกันด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงทั้งขุมพลังและระบบขับเคลื่อนและอื่นๆ X3 เปิดตัวด้วยรถต้นแบบครั้งแรกในงาน Detroit Auto Show ปี 2003 ในชื่อคอนเซ็ป BMW xActivity ก่อนจะกลายเป็น Production car ในเดือนกันยายนปี 2004 ที่งาน Frankfurt Motor Show และเริ่มทำตลาดฝั่งบ้านเกิดช่วงต้นปี 2004 ก่อนกระจายไปทั่วโลกรวมถึงบ้านเราช่วงปลายปีเดียวกัน ที่ได้ฤกษ์รับรถที่ประกอบจากโรงงาน BMW ในประเทศออสเตรีย  BMW X3 ปรับโฉมอีกครั้งต้นปี 2006 (Minorchange) และเริ่มขายตลาดยุโรปช่วงปลายปีเดียวกัน ก่อนกระตุ้นยอดขายด้วยรุ่นเครื่องดีเซลคอมมอลเรลความจุ 2 ลิตร บล็อก N47 และใช้ชื่อรุ่นว่า X3 xDrive20d ชื่อเดียวกับรุ่นปัจจุบัน ส่วนเวอร์ชั่น CKD (ประกอบในบ้านเรานั้น) นั้นเริ่มรายผลิตในช่วงปี 2008   
หลังปล่อยให้ X3 รหัส E83 ทำตลาดอยู่นานเกือบ 6 ปี BMW เริ่มเผยไต๋ให้เห็นทายาทลำดับที่ 2 ในตระกูล X3 โปรเจ็คโค็ดคือ F25 ในเดือนกันยายนปี 2010 ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมจำหน่ายที่เยอรมันช่วงปลายปีเดียวกัน X3 ใหม่ได้รับการดูแลการออกแบบโดย Adrian van Hooydonk จาก BMW Head of Design ที่พยายามเพิ่มความโดดเด่นให้กับ X3 ใหม่ตั้งแต่ตัวถังให้มีขนาดใหญ่ขึ้นหร้อมลายเส้นที่เน้นความโฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ตที่ BMW ต้องการจะปรับให้รถ SUV ในค่ายกลายเป็น SAV (Sport Activity Vehicle) จนออกมาเป็น X3 โมเดลล่าสุดรุ่นปี 2011 ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีด้วยรับรางวัลการันตีหลายรายการ เช่น  รางวัลชนะเลิศดีไซน์ดีเด่น Red Dot Design Award 2011, รางวัล Off-Roader of the Year โดยนิตยสาร Off Road และรางวัล Four-Wheel Drive Car of the Year 2011 จากนิตยสาร Auto Bild Allrad 
ก่อน จะส่งมาขึ้นไลน์การประกอบที่ บีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอร์ริ่ง ประเทศไทยและพร้อมส่งตรงถึงมือผู้บริโภคชาวไทยแล้วตั้งแต่ต้นไตรมาส 3 ปีนี้
Design & Interior 
ตั้งแต่เห็นภาพของ BMW X3 ครั้งแรกใน Social Network ตอนช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2010 ตอนนั้นผมไม่รู้สึกตื่นเต้นอย่างที่หวังไว้กับหน้าตาของ X3 ใหม่ รหัส F25 เพราะเท่าที่เห็นนอกจากรูปร่างกับดีไซน์ที่เหมือนก็อบลายเส้นมาจากรุ่นพี่ X5 ใหม่รหัส E53 นั้นยังไม่มีตรงไหนที่น่าปลื้ม จนได้เจอตัวจริงของ X3 ใหม่อีกครั้งในงาน Bangkok Motorshow ที่ผ่านมา X3 ใหม่ก็ยังไม่สามารถสร้างแรงดึงดูดให้ผู้คนสนใจได้มากนักหรือไม่ก็อาจถูกรถรุ่นอื่นของ BMW ขโมยซีนไปหมด พอมีโอกาสได้เจอกันตัวต่อตัวกับการทดสอบเดี่ยว BMW X3 ใหม่ รุ่น xDrive20d งานนี้ได้เห็นกันจะและได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นเพราะอยู่กับผมถึง 3 วัน จึงเริ่มรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่ซ่อนอยู่ในรายละเอียดมากมาย ที่เห็นชัดเจนที่สุดคือขนาดตัวที่กำยำขึ้นกว่ารุ่น E83 ในทุกมิติซึ่งยืนยันได้ตามสเป็คคือมีระยะฐานล้อที่เพิ่มขึ้น 15 มม.ตัวถังกว้างขึ้น 28 มม.และยาวขึ้นอีก 83 มม.พร้อมเพดานความสูงที่เพิ่มมาอีก 12 มม. เรียกว่าใหญ่โตขึ้นทุกกระเบียดนิ้ว พร้อมกับดีไซน์ด้านหน้าที่ปรับให้ดูหล่อแบบมีมิติด้วยฝากระโปรงแบบ Power Dome ที่เล่นแสงเงเพิ่มมิติด้วยพื้นผิวโค้งดูกลมกลืนกับกันชนหน้าแบบสามมิติ (3 Dimension Surface) กระจังหน้าแนวตั้งพร้อมสัญลักษณ์ไตคู่ขนาดใหญ่ บ่งบอกเอกลักษณ์ความเป็นบีเอ็มดับเบิลยูพร้อมไฟตัดหมอกทรงกลมแบบ Built-in สไตล์ X-Family ที่ถูกขยับสูงขึ้น ใต้ไฟหน้าที่เฉียบคมบนเอกลัษณ์รูปวงแหวน LED Light Ring หรือ Corona Ring เดิมแต่เพิ่มประสิทธิภาพในโหมด Day Time Running Light เข้ามาเพื่อเป็นไฟบอกตำแหน่งรถตั้งแต่สตาร์ทเครื่องยนต์ที่ตามพรบ.จราจรในหลายๆประเทศแถบยุโรปเริ่มบังคับใช้เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ช่วงกลางวันที่มีทัศนวิสัยค่อนข้างปิด เช่น มีหมอก หรือ หิมะตก เป็นต้น ส่วนแสงสว่างหลักนั้นเป็นแบบ Bi-Xenon ที่ให้ลำแสงแบบ HID ทั้งไฟสูงและไฟต่ำพร้อมระบบเพิ่มแสงสว่างขณะหักเลี้ยว 
ดีไซน์ด้านข้างถูกเน้นที่เส้นสายของ Shoulder Line ที่กรีดลายเส้นให้ลึกและลากเฉียงขึ้นจากด้านหน้าสู้ด้านหลัง ประกอบกับแนวกระจกด้านข้างที่ไล่แนวลู่แคบลงจากด้านหน้าสู่ด้านหลัง สร้างแนวสายตาที่ให้ความรู้สึกปราดเปรียวคล่องตัวดูสปอร์ตทรงพลังมากกว่ารุ่นเดิม พร้อมเสริมความหรูหราด้วยขอบกระจกแบบโครมเมี่ยม (Hofmeister kink Chrome) และตบท้ายด้วยล้ออัลลอยลายใหม่คล้ายของรุ่นพี่ X5 และ X1 ตัวท็อป ขนาด 8Jx18 นิ้ว พร้อมยางไฮโซ Piralli รุ่น P ZERO 
ขนาด 245/50 R18 ติดมาให้เพิ่มความหล่อหรูดูดีและมีสมรรถนะที่ดีแผงอยู่ ส่วนด้านท้ายถูกเสริมอารมณ์สปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังแบบตูดเป็ดพร้อมชุดการ์ดกันกระแทกแบบ Diffuser และไฟท้ายดีไซน์ใหม่รูปทรงเป็นเอกลักษณ์รูปตัว L ขนาดใหญ่เพิ่มมีลูกเล่นของแสงไฟเบรกแบบ LED ลายเส้นโค้งรับกับมุมตัวถังและไฟถอยที่ลากยาวขั้นกลางเพิ่มความหรูหราดูดีมีสไตล์มากขึ้นให้กับ X3 ใหม่คันนี้ได้อย่างชัดเจน
การทดสอบรถที่ดีนั้นนอกจากจะลองขับทดสอบแล้วการได้ลองโดดไปนั่งที่เบาะหลังเพื่อสัมผัสอารมณ์ของผู้โดยสารก็ถือเป็นสิ่งที่ผมต้องทำอยู่เสมอ (หรือถ้าใครซื้อรถมาแล้วไม่เคยมีใครมานั่งด้วยเลยก็แล้วไป) สำหรับ SUV หรือ SAV หรูราคา 3 ล้านกว่าอย่าง X3 ใหม่นั้นที่เห็นชัดเจนคือ "มันใหญ่มาก" กว้างขึ้นชัดเจนเมื่อเทียบกับตัว E83 ที่นั่งแล้วรู้สึกขาติดๆ ซึ่งผมบอกให้คนขับเลื่อนเบาะมาจนเกือบสุดผมพื้นที่ Leg Room ของ X3 ใหม่ยังเหยียดขาได้สบาย จากการเพิ่มขนาดของตัวถังที่ทำให้ X3 ใหม่มีพื้นที่ใช้สอยในห้องโดยสารกว้างขวางยิ่งขึ้นตั้งแต่พื้นที่ส่วนศีรษะ, ส่วนหัวไหล่, ส่วนหัวเข่า และพื้นที่วางขารวมถึงปริมาตรของห้องเก็บสัมภาระท้ายรถที่กว้างกว่ารุ่นเดิมอีก 70 ลิตร เพิ่มความจุเป็น 550 ลิตร พอถึงช่วงที่ขับเองบนเบาะหนังนุ่มๆปรับไฟฟ้าที่โอบร่างอวบๆของผมไว้ในตำแหน่งที่สมดุลที่สุดในการขับขี่ ตัวเบาะรู้สึกได้ถึงความกระชับและถูกปรับตำแหน่งให้มีทัศนวิสัยที่ดีขึ้นรวมถึง Dash Board ที่ปรับองศาให้หันเข้ามาอีกเล็กน้อยทำให้สามารถอ่านค่าจากมาตรวัดได้อย่างถนัดตา (แก้จุดบอดของรุ่นก่อนที่เยื้องกันอยู่ระหว่างมาตรวัดกับแป้นเหยียบ) ทำให้นั่งสบายขับทางไกลไม่เมื่อยล้าเหมือนรุ่นก่อนซึ่งพิสูจน์โดยการขับไปถ่ายภาพสวยๆกันที่ .บ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรีบนเส้นทางเกือบ 150 กิโลเมตร ในบรรยากาศการออกแบบห้องโดยสารที่สื่อถึงความเป็น BMW ชัดเจนด้วยเส้นสายที่เรียบง่าย ประณีตแต่เพิ่มความแตกต่างด้วยแสงเงาจากพื้นผิวของวัสดุที่ให้มุมมองแบบ 3 มิติ ตั้งแต่คอนโซลหน้า แผงประตู และอื่นที่เน้นสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์พร้อมออกแบบและจัดวางฟังชั่นและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกไว้ให้สามารถใช้งานได้ถนัดมือขึ้น
นอกจากดีไซน์ของห้องโดยสารที่ปรับเปลี่ยนให้ X3 ใหม่สมบูรณ์แบบมากขึ้นอีกนิดแล้วในส่วนของอุปกรณ์ไฮเทคนั้น X3 มีให้เกือบครบตั้งแต่รุ่นล่างไม่ว่าจะเป็นปุ่มควบคุมแบบ iDrive พร้อมจอแสดงผลความละเอียดสูงขนาดใหญ่ 8.8 นิ้ว (เฉพาะในรุ่นท็อป) ซึ่งเจ้าจอนี้มันสามารถแสดงผลระบบได้ครอบคลุมเกือบทั้งหมดของรถและสามารถปรับตั้งค่าต่างๆได้แบบเดียวกับ BMW 5-Series ใหม่โมเดล F10 พร้อม Navigator นำทาง ส่วนในรุ่นไม่ท็อปขนาดจอจะเล็กกว่าและไม่มีเนวิเกเตอร์ไว้นำทางครับ จากนั้นเมื่อกวาดตามาที่คอนโซลเกียร์จะเห็นว่า X3 ใหม่เปลี่ยนมาใช้เกียร์ไฟฟ้า (Electronic Gear Shift) แบบ Joy Stick เป็นที่เรียบร้อยเพื่อให้ขับขี่ได้แบบ Joy Drive ตามคอนเซ็ป พร้อม S-Tronic โหมดไว้เปลี่ยนเกียร์เองที่มีเล่นถึง 8 สปีด ส่วนทางด้านขวาของคันเกียร์ก็จะมีปุ่ม HDC (Hill Descent Control) เอาไว้ช่วยควบคุมความเร็วขณะลงเขาให้อยู่ที่ระดับไม่เกิน 8 กม./ชม. ถัดมาก็จะเป็นปุ่มสำหรับปรับเซ็ทช่วงกันสะเทือนและระบบขับเคลื่อนรวมถึงตัวถังแบบ (Dynamic Drive Control) ซึ่งมีให้เลือกทั้ง Normal Sport และ Sport Plus ตามลักษณะการขับขี่ที่แตกต่างกันออกไป สุดท้ายคือช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังที่มีเพิ่มเข้ามาเพื่อคลายความร้อนในห้องโดยสารของ X3 ใหม่ที่หรูหราและกว้างขวางสะดวกสบายมากขึ้น
Engine & Transmission & Performance
ขุมพลังใน BMW X3 ใหม่ นั้นในตลาดโลกจะมีให้เลือกอยู่ด้วยกัน 4 รุ่นย่อย ตั้งแต่รุ่นท็อปคลาสรุ่นเครื่องยนต์ xDrive28i ที่ใช้ขุมพลังเบนซิน 6 สูบเรียง DOHC 24 วาล์ว 2,996 ซีซี กำลังสูงสุด 258 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร ที่รอบตั้งแต่ 2,600 - 3,000 รอบ/นาที กับรุ่น xDrive35i ขุมพลัง 6 สูบเรียง 
DOHC 24 วาล์ว 2,996 ซีซี หัวฉีด 306 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,200 - 5,000 รอบ/นาที ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ Diesel จะมีทั้งรุ่น xDrive30d ที่วางเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง DOHC 24 วาล์ว 2,993 ซีซี ที่ฉีดจ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีด Piezo Common Rail พร้อมระบบอัดอากาศที่ให้พละกำลังสูงสุดที่ 253 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดมหาศาลที่สูงสุดถึง 560 นิวตันเมตร ที่รอบตั้งแต่ 2,000 - 2,750 รอบ/นาที กับรุ่น xDrive20d ที่เราได้ทดสอบในฉบับนี้ 
ขุมพลังเทอร์โบดีเซลเจนฯ3 แบบ Efficency Dynamic รหัส N47 ที่ซ่อนอยู่ใต้ฝากระโปรง X3 ใหม่รุ่น xDrive20d นั้นให้พละกำลังเพิ่มขึ้นจากโมเดล E83 ภายใต้พื้นฐานเครื่องยนต์ Advanced Diesel แบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร แบบอะลูมินั่มทั้งบล็อกพร้อมเทคโนโลยีระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผัน (Turbo Charger with Variable Turbine Technology) ที่สามารถรีดกำลังสูงสุดออกมาได้ถึง 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำเพียง 1,750-2,750 รอบ และถ่ายทอดกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติใหม่ 8HP ที่มีถึง 8 สปีด พร้อมการอัพเกรดใหม่ในหลายจุดภายในเครื่องยนต์ตั้งแต่ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีแรงดันสูงขึ้นพร้อมฉีดจ่ายได้อย่างแม่นยำด้วยหัวฉีด Piezo เจ้าเดิม อีกทั้งยังเพิ่มระบบปั้มน้ำและปั้มน้ำมันเครื่องใหม่ที่สามารถทำงานได้แบบ On Demand นอกจากนี้ยังมีระบบ Auto Start/Stop ซึ่งมีไว้ช่วยดับเครื่องยนต์เองขณะเบรกเพื่อหยุดรถและติเองเมื่อถอนเท้าจากเบรก (คล้ายกับรถ Hybrid) เพื่อลดมลพิษและช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งระบบนี้มีเงื่อนไขที่ค่อนข้างซับซ้อนในการทำงาน ซึ่งถ้ามีโอกาสได้ทดสอบเดี่ยวเมื่อไหร่เราจะมาดูกันว่ามันทำงานอย่างไร 
มาถึงระบบส่งกำลังซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ใน X3 ใหม่คันนี้ที่นอกจากคันเข้าเกียร์จะถูกเปลี่ยนมาเป็นแบบไฟฟ้าแล้วอัตราทดยังเพิ่มจาก 6 เป็น 8 สปีดซึ่งเป็นเกียร์ลูกเดียวกับที่ใช้อยู่ใน 7-Series รหัส F01/F02 เพื่อให้มีจังหวะการเข้าเกียร์ที่ต่อเนื่องราบรื่นจนไม่มีการสะดุดและช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานในรอบที่ต่ำลงในช่วงความเร็วที่เท่ากันเมื่อเทียบกับเกียร์ที่มีอัตราทดน้อยกว่า ซึ่งจากที่ได้ลองขับทั้งเส้นทางปกติและออฟโรดรู้สึกได้ว่า X3 ใหม่มีรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำลงในทุกย่านความเร็วและมีทอร์คที่จัดจ้านพอฉุดให้สามารถปีนไต่เนินผาได้สบายไปพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ xDrive ที่สามารถแปรผันและส่งถ่ายกำลังไปยังล้อทั้งสี่ได้อย่างอิสระ ที่อาศัยการทำงานของชุดคลัทซ์แบบหลายแผ่นซ้อน (Multi-Disc Clutch) ซึ่งเป็นหัวใจหลักของระบบขับเคลื่อน xDrive ที่ติดตั้งอยู่ภายในชุดเกียร์ทรานสเฟอร์ ที่ต่อเชื่อมเข้ากันกับทั้งชุดเพลาขับล้อคู่หน้าและเพลาขับล้อคู่หลัง และควบคุมการทำงานโดยสมองกลอีเล็กโทรนิคส์ที่สั่งการการควบคุมที่ความเร็ว 1/1,000 วินาที เพื่อทำหน้าที่กระจายแรงบิดไปยังล้อทั้ง 4 ในอัตราส่วนที่แปรผันตามสภาพพื้นผิวถนนและการขับขี่ที่แตกต่างขณะนั้น ซึ่งถ้าขับปกติกำลังจากเครื่องยนต์จะถูกถ่ายทอดลงสู่ล้อทั้ง 4 ในอัตราส่วน 40:60 แต่ถ้าล้อข้างใดเกิดเสียกำลังหรือหมุนฟรี ระบบจะสั่งให้ชุด Multi Disc Clutch ถ่ายทอดกำลังไปยังล้ออื่นๆ ที่ยังไม่หมุนฟรในขณะเดียวกันระบบควบคุมเสถียรภาพ DSC (Dynamic Stability Control) จะช่วยลดแรงบิดที่ล้อหมุนฟรีอยู่เพื่อเพิ่มกำลังให้ X3 ลุขผ่านอุปสรรคไปได้โดยง่าย 
ส่วนในเรื่องของสมรรถนะและความประหยัดนั้นเครื่องยนต์ดีเซลของทาง BMW ไม่เคยทำให้ผิดหวังมาตั้งแต่เจนเนอเรชั่นแรกตนถึงล่าสุดเจนเนอเรชั่นที่ 3 ใน X3 ใหม่คันนี้ซึ่งนอกจากความประหยัดที่เกิดขึ้นจากการอัพเกรดชิ้นส่วนต่างๆในเครื่องยนต์รวมถึงการออกแบบตัวถังตามหลักอากาศพลศาสตร์และการลดน้ำหนักซึ่งถือเป็นอีกปัจจัยที่ค่ายรถยนต์มุ่งพัฒนาตรงจุดนี้กันมากขึ้น นอกจากนี้ใน X3 ใหม่ยังมีระบบ Brake Energy Regeneration เข้ามาเป็นตัวช่วยชาร์จไฟขณะเบรกช่วยให้รถไม่สูญเสียพลังงานและมีกำลังเหลือเฟือสำหรับสร้างอัตราเร่งให้ X3 ใหม่ทะยานสู่พิกัดความเร็ว 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 10.27 วินาทีและทำท็อปสปีดได้สูงสุดที่ 210 กม./ชม. พร้อมอัตราสิ้นเปลืองจากการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมืองเฉลี่ย 12.4 กม./ลิตร ได้ไม่ยากจากรอบเครื่องยนต์ที่ค่อนข้างต่ำขณะวิ่งที่ความเร็วคงที่ยิ่งประหยัดมาก เติมเต็มถัง 67 ลิตรวิ่งกันเพลินเลยทีเดียว
Handling & Ride & Break
จากความหลังที่เคยเหนื่อยกับการหมุนพวงมาลัยอันหนักอึ้งของ BMW ที่ฝังใจผมมาตลอดว่าทำม้ายต้องหนักขนาดนั้นไม่ว่าจะเป็น 3-Series หรือ X3 รุ่นที่แล้วล้วนมีน้ำหนักพวงมาลัยที่หนักเอาเรื่อง แต่พอได้หมุนพวงมาลัย X3 ใหม่ผมรู้สึกโล่งทันที (น่าจะทำมาตั้งนานแล้ว) BMW ได้แก้ไขตรงจุดนี้ที่มีผู้ใช้บ่นกันค่อนข้างหนาหูโดยเฉพาะคุณสุภาพสตรีที่เริ่มมีกล้ามแขนตั้งแต่ถอย 3-Series ออกไปขับ ซึ่งทาง BMW นั้นเปลี่ยนมาใช้เป็นพวงมายแบบไฟฟ้า EPS (Electronic Power Steering) ที่ตัวเองเคยส่ายหัวพร้อมระบบ Servotronic ที่สามารถลดน้ำหนักและแปรผันวงเลี้ยวให้เป็นไปอย่างเหมาะสมกับสภาพการขับขี่ ซึ่งช่วยทำให้ขับง่ายขึ้น เบาขึ้นแต่เฉียบคมแลตอบสนองได้อย่างแม่นยำเหมือนเดิม พร้อมการกระจากน้ำหนักแบบ 50/50 จากการเลื่อนตำแหน่งวางเครื่องยนต์ให้ลึกและต่ำกว่าเดิม บวกกับสมรรถนะของระบบกันสะเทือนที่ด้านหน้าเป็นแบบอิสระดับเบิ้ลจอยส์และหลังแบบอิสระพร้อมจุดยึด 5 จุด (Five-Link) พร้อมระบบ DDC Dynamic Damper Control ที่ทำหน้าที่ปรับความนุ่ม-แข็งของระบบช่วงล่าง
ซึ่งเป็นระบบ DDC แบบเดียวกับที่ใช้อยู่ใน 5-Series บอดี้ F10 และ 7-Series ตัวใหม่ล่าสุด ซึ่งระบบจะทำงานโดยอาศัยเซ็นเซอร์เป็นตัวเก็บข้อมูลและประมวลผลจากตำแหน่งการหมุนพวงมาลัย ความเร็วในการหมุนของล้อ และอื่น ก่อนคำนวณการปรับตั้งค่าที่ดีที่สุดอย่างต่อเนื่องตามความเหมาะสม และสามารถเลือกปรับโหมดของระบบช่วงล่างได้จากสวิทซ์ที่คอนโซลเกียร์ซึ่งมีให้เลือกอยู่ด้วยกัน 3 โหมดเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ที่แตกต่างตั้งแต่โหมด Normal สำหรับการขับขี่ทั่วไปที่เน้นความนุ่มนวลเป็นหลัก ตามด้วยโหมด Sport ซึ่งระบบจะปรับให้พวงมาลัยมีน้ำหนักหน่วงเพิ่มขึ้นเพื่อขับขี่ที่ความเร็วสูงๆและสุดท้ายคือโหมด Sport+ ที่นอกจากความรู้สึกกระด้างที่ช่วงล่างและแฮนด์ลิ่งของพวงมาลัยที่หนักแน่นขึ้นแล้วเมื่อเปิดระบบนี้นั่นหมายถึงคุณไม่ต้องการใช้ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับ หรือ DSC (Dynamic Stability Control) เพราะมันจะตัดการทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มอรรถรสในการขับขี่สไตล์สปอร์ตดิบๆซึ่งต้องใช้ความระวัดระวังเมื่อขับขี่ในโหมดนี้ (ทางที่ดีใช้แค่ Normal กับ Sport ก็พอครับ)   
Tester's Verdict
BMW X3 xDrive20d ใหม่ นอกจากหน้าตาจะดูทันสมัยขึ้นกับความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นแล้ว โมเดล F25 นี้ยังได้ลบจุดบกพร่องต่างๆให้หายไปเกือบหมดทั้งการวาง Position ในการขับ สมรรถนะเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง ระบบกันสะเทือน รวมถึงจุดเด่นเรื่องความประหยัด และที่ขาดไม่ได้คือระบบบังคับเลี้ยวที่ตอบโจทย์ได้ตรงจุด จนท BMW X3 ใหม่ ดูลงตัวและพร้อมกลับมาปลุกกระแสรถอเนกประสงค์สไตล์สปอร์ตได้อีกครั้งหลังจากประสบความสำเร็จกับน้องเล็ก X1 ที่ขายดีแบบเทน้ำเทท่าได้ไม่ยาก
Specification : BMW X3 Xdrive 20d
รายละเอียดการผลิต
รุ่นปี: 2011
ประเทศผู้ผลิต: BMW AG. 
ผู้จำหน่ายในประเทศไทย: บริษัท บีเอ็มดับเบิ้ลยู (ประเทศไทย) จำกัด
ประเภทรถยนต์: SAV (Sport Activity Vehicle)
ราคา (ล้านบาท)
Dimension:
Length:  (mm.) 4,648
Width:  (mm.) 1,881
Height:  (mm.) 1,675
Wheelbase:  (mm.) 2,810
Front/Rear track  (mm.) 1.616/1,632
Weight : (kg.) 1,725
Engine
แบบ ดีเซลคอมมอลเรล เจนเนอเรชั่น 3 แบบ 4 สูบ DOHC
  16 วาล์ว พร้อม เทอร์โบแปรผัน
ปริมาตรกระบอกสูบ 1,995
ความกว้างกระบอกสูบxระยะชัก 90.0x84.0
อัตราส่วนกำลังอัด
ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง Commonrail 
กำลังสูงสุด(Ps@rpm) 184@ 4,000
แรงบิดสูงสุด(Nm@rpm) 380@ 1,750-2,750
เชื้อเพลิง ดีเซล
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) 67 
Drivertrain
ระบบขับเคลื่อน xDrive (ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาแบบแปรผัน)
เกียร์อัตโนมัติ อัตโนมัติ 8 สปีด
Gear Ratio (:1)
1 4.714
2 3.174
3 2.106
4 1.667
5 1.285
6 1.000
7 0.839
8 0.667
3.295
เฟืองท้าย 3.077
Steering แบบผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า (Electronic Power Steering)
พร้อม Servotronic 
Suspension
หน้า อิสระ Double Joint พร้อมคอยล์สปริงค์และเหล็กกันโคลง
หลัง อิสระ Five Link พร้อมคอยล์สปริงค์และเหล็กกันโคลง
Break
หน้า ดิสก์เบรกพร้อมครีบระบายความร้อน
หลัง ดิสก์เบรก
Wheel+Tire
ล้ออัลลอย ขนาด 8Jx18
ยาง Piralli P ZERO ขนาด 245/50 R18

Test Result : BMW X3 xDrive20d
รอบเครื่องยนต์ที่ความเร็วต่างๆที่เกียร์  8
km./h rpm.
40 1,200
60 1,200
80 1,250
90 1,450
100 1,550
120 1,850
140 2,200
160 2,550
180 2,850
รอบเครื่องยนต์สูงสุด 4,500
Acceleration (km./h) sec./m.
0-40 2.74/13.98
0-60 4.68/41.58
0-80 7.00/80.87
0-100 10.27/168.49
0-120 18.71/304.43
0-140 21.88/565.78
0-160 30.08/910.54
อัตราเร่งแซง (km./h) sec./m.
40-60 1.75/24.89
40-80 3.95/69.17
40-100 7.21/144.22
40-120 11.46/280.27
40-140 15.09/498.13
อัตราเร่งที่ระยะต่างๆ
Quarter Mile 0-402m. 17.53/129.57 (sec./km./h.)
0-1,000m. 32.08/163.17 (sec./km./h.)
Consumption (km./l.)
City 10.2 
HWY 14.6
AVR. 12.4

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น